วันพุธที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2557

บทที่ 6 การวิเคราะห์พื้นผิว (Surface analysis)


        การวิเคราะห์พื้นผิว (Surface analysis)  เป็นการวิเคราะห์การกระจายของค่าตัวแปรหนึ่งซึ่งเปรียบเสมือนเป็นมิติที่ 3 ของข้อมูลเชิงพื้นที่ โดยข้อมูลเชิงพื้นที่มีค่าพิกัดตามแนวแกน X และ Y ส่วนตัวแปรที่นามาวิเคราะห์เป็นค่า Z ที่มีการกระจายตัวครอบคลุมทั้งพื้นที่
การสร้างเส้น Contour ( Contour line หรือ เส้นชั้นความสูง) หมายถึง เส้นจิตนาการของระดับที่คงที่บนพื้นดิน ซึ่งได้จากการลากเส้นคงที่ผ่านจุดต่าง ๆ บนพื้นดินที่มีค่าระดับเท่ากัน หรือในบางครั้งอาจเป็นค่าอื่น ๆ ก็ได้ เช่น ปริมาณน้าฝน หรือระดับความลึกของน้า เป็นต้นการสร้างเส้น Contour มี 2 วิธีดังนี้
1. สร้างได้ครั้งละ 1 เส้น ณ ตำแหน่งที่คลิก
2. สร้างได้พร้อมกันทั้งแผนที่และสามารถกำหนดค่าความต่างของแต่ละเส้นได้

วิธีที่ 1  
-ให้นำข้อมูล idw2 ที่เราได้สร้างเมื่อบทที่แล้วมาใช้


- จากนั้นเปิดเครื่องมือ 3D Analyst ขึ้นมา จากนั้นคลิกที่ Create contour   แล้วนำไปคลิกที่ พื้นที่ มันจะขึ้นเส้นทีละเส้นตามที่เราได้เลือก


- และถ้าต้องการที่จะลบเส้นออกให้ไปกดรูปเมาส์สีดำมาลากครอบคลุมแล้วกด Delete ที่แป้นพิมพ์


วิธีที่ 2
-  สร้างเส้น Contour พร้อมกันหลายๆเส้น เริ่มจากเปิด Arctoolbox > 3D Analyst tool > Raster Surface > Contour


- เมื่อเปิดขึ้นมาแล้ว ช่อง Input > idw2 , Output > Saveในโฟล์เดอร์ Surface_Pacharawan ที่เราสร้างไว้ชื่อว่า contour และ contour interval > 50  แล้วกด OK


- ผลลัพธ์ที่ได้


- จากนั้นสร้าง Label โดยคลิกขวาที่ contour เลือก Properties แล้วก็ไปคลิกเลือก Label เเล้วก็ปรับขนาดตัวอักษรตามต้องการ และกด OK



- ผลลัพธ์ที่ได้


 แนวการมองเห็น (Line of sight)
แนวการมองเห็น ใช้สาหรับวิเคราะห์การมองเห็นว่าพื้นที่ใดสามารถมองเห็นได้บนพื้นผิวจากตำแหน่งต่างๆ
- ไปที่แถบเครื่องมือ 3D Analyst แล้วเลือก Create Line of  sight 


-  แล้วนำมากดที่แผนที่โดยลากเส้นที่ต้องการแล้วดับเบิ้ลคลิก จากนั้นจะเห็นสีของเส้นจะบอกตำแหน่งพื้นผิวที่สามารถมองเห็นได้ (สีเขียว) และ ไม่สามารถมองเห็น (สีแดง)


 การวิเคราะห์ทิศทางการไหล (Steepest path)
เป็นการประเมินรูปแบบการกลิ้ง (Runoff patterns) ของวัตถุจากแบบจาลองพื้นผิวโดยจะดูทิศทางการไหลของวัตถุที่ถูกปล่อยจากจุดที่กำหนด ไปตามลักษณะของพื้นที่ โดยจะมีเส้นทางการไหลไปจนถึงบริเวณที่มีความลาดชันมากที่สุด
- ซูมภาพ แล้วไปที่แถบเครื่องมือ 3D Analyst เลือก Create Steepest Path


- แล้วนำมากดลงที่แผนที่ภาพโดยขยายตามยอดเขา เวลาจะลบออกก็ทำการ Delete ตามปกติ  และก็จะได้ภาพตามต้องการ


การแสดงภาพตัดขวาง (Profile)
เป็นการแสดงระดับความสูงของพื้นผิวตามแนวเส้นที่กำหนดภาพตัดขวางสามารถช่วยในการประเมินความยากง่ายของเส้นทาง หรือประเมินความเป็นไปได้ในการสร้างถนน หรือทางรถไฟในบริเวณที่กำหนด เป็นต้น
- ไปที่แถบเครื่องมือ 3D Analyst เลือก Interpolate Line ลากแนวเส้นขึ้นมา แล้วดับเบิ้ลคลิกให้ขึ้นแถบเส้นสีฟ้า จึงกดที่ Create Profile Graph    เพื่อสร้างกราฟ


- และจึงกดที่ Create Profile Graph    เพื่อสร้างกราฟ


-   เวลาทำการสร้างหลายๆเส้นควรจะเปลี่ยนสีเส้นด้วย คือคลิกลากครอบคลุมเส้นแล้วคลิกขวาเลือก Properties แล้วจึงเปลี่ยนสีตามต้องการ



- ให้ครอบเป็นเส้นปะสองเส้นแล้วเปิดกราฟดู


 การวิเคราะห์ความลาดชัน (Slope)
เป็นการคำนวณอัตราการเปลี่ยนแปลงค่าความสูงจากเซลล์หนึ่งไปยังเซลล์ใกล้เคียง
ความลาดชันสามารถคำนวณและวัดได้ 2 ประเภท ได้แก่ แบบองศา และแบบเปอร์เซ็นต์
1. องศา (Degree)
- ไปที่แถบเครื่องมือ Arctoolbox > 3D Analyst tool > Raster Surface > Slpoe


- จากนั้นที่ช่อง Input raster > idw2 , Output raster > Save ว่า Slo_Deg เก็บไว้ในโฟล์เดอร์ของเรา และตรง Output measurement > DEGREE > OK


- ผลลัพธ์ที่ได้


 2. เปอร์เซ็นต์ (Percent rise)
- ไปที่แถบเครื่องมือ Arctoolbox > 3D Analyst tool > Raster Surface > Slpoe เหมือนเดิม  จากนั้นที่ช่อง Input raster > idw2 , Output raster > Save ว่า Sl_per เก็บไว้ในโฟล์เดอร์ของเรา และตรง Output measurement > Precent_rise > OK


- ผลลัพธ์ที่ได้


 การวิเคราะห์ทิศทางการหันเหของความลาดชัน (Aspect)
เป็นการกำหนดความลาดชันที่จะรับแสงAspect จะวัดตามเข็มนาฬิกาจาก 0-360 องศาค่าของทุกเซลล์จะบ่งบอกทิศทางการหันเหของความลาดชันโดยพื้นที่ที่เป็น Flat slope จะไม่มีทิศทาง และมีค่าเป็น -1 เสมอ
- ไปที่แถบเครื่องมือ Arctoolbox > 3D Analyst tool > Raster Surface > Aspect


- จากนั้นที่ช่อง Input raster > idw2 , Output raster > Save ว่า Aspect เก็บไว้ในโฟล์เดอร์ของเรา และกด OK

 

- ผลลัพธ์ที่ได้

- ต้องการดูค่าพิกัดก็ให้ซูมเข้าไปแล้วคลิกขาวตรงพื้นที่นั้นแล้วเลือก Identify จากนั้นก็จะปรากฏหน้าต่างขึ้นมา


 การตกกระทบของแสง (Hillshade)
เป็นรูปแบบความสว่างและความมืดที่พื้นผิวจะได้รับเมื่อให้แสงสว่างจากมุมที่กำหนด
- ไปที่แถบเครื่องมือ Arctoolbox > 3D Analyst tool > Raster Surface > Hillshade


- จากนั้นที่ช่อง Input raster > idw2 , Output raster > Save ว่า Hillshade เก็บไว้ในโฟล์เดอร์ของเรา และกดOK


- ผลลัพธ์ที่ได้


- ไปเอาอำเภอของจ.กาจญบุรี ออกมา


- ใส่ชื่อให้แต่ละอำเภอ โดยคลิกขวาที่ Properties เลือก Symbology แล้วก็ทำการใส่ชื่ออำเภอลงไปตามนี้


- จะได้ข้อมูลดังนี้


- จากนั้นทำให้แต่ละพื้นที่มีความโปร่งแสง โดยคลิกขวาที่ idw เลือก Properties > Display > Transparency >50%  > OK


- ผลลัพธ์ที่ได้


พื้นที่การมองเห็น (Viewshed)
เป็นพื้นที่บนพื้นผิวที่สามารถมองเห็นได้จากจุดสังเกตุสาหรับตำแหน่งที่มองเห็นได้ สามารถหาได้ว่ามีผู้สังเกตุกี่คนที่สามารถมองเห็นตาแหน่งนั้นได้รวมถึงกำหนดค่าความสูงของผู้สังเกตุ จากัดความห่าง ความสูง และทิศทางที่จะมอง
- ต้องสร้าง Shapefile ของจุด(Point)ขึ้นมาก่อน โดยคลิกขวาที่โฟเดอร์งานของเรา แล้วเลือก Shapefile จะปรากฏหน้าต่างขึ้นมา ช่อง Name > Point > Feature Type > Point >Edit (Asia>Indian 1975UTM Zone  47N)(เลือกตามที่เคยทำมา)


- นำข้อมูลจุดเข้ามาแล้วปรับแต่งสัญลักษณ์จุดให้เป็นรูปตึกหรือบ้าน แล้วไปที่คำสั่ง Editor > Start Editing > Point > OK แล้วเลือกพื้นที่ที่ต้องการจุดลงไป แล้วจึงกด Stop Editing



- ไปที่แถบเครื่องมือ Arctoolbox > 3D Analyst tool > Raster Surface > Viewshed  


- เมื่อหน้าต่างขึ้นมา ช่อง Input raster > idw2 , Input point > Point , Output > save ในโฟรเดอร์ที่เราสร้างไว้ว่า viewshed  แล้วกด OK


- ผลลัพธ์ที่ได้


 การประมาณปริมาตรในการขุดและถมที่ (Cut-and-Fill)
เป็นการประมาณการเปลี่ยนแปลงของพื้นที่หรือปริมาตรจากการขุดหรือถมพื้นผิว หรือเรียกว่า สิ่งที่สูญเสีย (Net loss) และสิ่งที่ได้มา (Net gain) ในพื้นที่
- นำข้อมูลของจ.ปราจีนบุรีออกมา โดยใช้ข้อมูล Cut_Fill > DEM_AFTER และ DEM_BEFORE


- ไปที่แถบเครื่องมือ Arctoolbox > 3D Analyst tool > Raster Surface > Cut Fill


- ช่อง Input raster DEM_BEFORE , Input point > DEM_AFTER , Output > save ในโฟล์เดอร์ที่เราสร้างไว้ว่า CutFill  แล้วกด OK


- ผลลัพธ์ที่เป็นดังนี้ พื้นที่สีแดง คือพื้นที่ที่เพิ่มขึ้นมาหรือถมเพิ่มมา(จะมีตะกอนพัดพามา) พื้นที่สีน้ำเงิน คือ พื้นที่ที่ลดลงหรือถูกขุด(ถูกน้ำพัดพา) สีเทา คือจะไม่มีการเปลี่ยนแปลง และสามารถเปิดดูข้อมูลได้ที่ Open Attribute








วีดีโอวิธีการทำเนื้อหาในบทที่ 6  เรื่องการวิเคราะห์พื้นผิว (Surface analysis)  ค่ะ
















ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น